เชื่อว่าหลายคนตอนนี้น่าจะเคยได้ลองใช้ ChatGPT หรือ Bard AI กันมาบ้างแล้ว ตั้งแต่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT เมื่อเดือน พ.ย. 2022 โลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ส่วนตัวแอดคิดว่าปี 2022 คือยุคทองแห่งโลก AI อย่างแท้จริง เราได้เห็นทั้ง ChatGPT, Midjourney, DALL-E, GitHub Copilot และ AI applications เก่งๆอีกหลายตัว
บทความนี้เราจะมาทำความรู้กับ OpenAI กันแบบเจาะลึก และเครื่องมือต่างๆที่ช่วยให้คนทั่วไปสามารถสร้าง AI applications ของตัวเองได้ง่ายๆ (แบบไม่ต้องโค้ดเลย 555+)
Table of Contents
What is OpenAI
OpenAI คือบริษัทวิจัยด้าน AI ที่ไม่แสวงหากำไร (non-profit) ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2015 โดยมี Sam Altman และ Elon Musk เป็นบอร์ดบริหารในยุคเริ่มต้น
Elon ให้สัมภาษณ์ว่าเค้าใช้เงินส่วนตัวประมาณ $50 ล้านก่อตั้ง OpenAI

โดยภารกิจหลักของบริษัทคือการพัฒนา AGI หรือ artificial general intelligence ให้กับมนุษยชาติ และ ChatGPT คือ product ที่ทำให้ทั่วโลกได้รู้จักกับ OpenAI อย่างเป็นทางการ
Creating safe AGI that benefits all of humanity
OpenAI website
Elon Musk ถอนตัวออกจากบริษัทในปี 2018 โดยให้เหตุผลว่า OpenAI ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากมีข่าว(ลือ)พัวพันกับ Microsoft และนโยบายบริษัทที่เริ่มแสวงหากำไรมากขึ้น
ปี 2019 OpenAI เปลี่ยนจาก non-profit เป็น capped-profit company เรียกว่าเป็นบริษัทลูกครึ่งระหว่าง non-profit และ profit อ่านครั้งแรกงงมากๆ 555+
ในจดหมายข่าวของบริษัท OpenAI LP การปรับโครงสร้างบริษัทช่วยให้ OpenAI สามารถระดมเงินลงทุนได้มากขึ้น ดึงดูด talents เข้าบริษัทมาช่วยทำงานตามภารกิจ AGI ที่เค้าวางไว้ตั้งแต่แรก
และนักลงทุน first-round investors จะได้ผลตอบแทนสูงสุด 100x (capped) แปลง่ายๆคือถ้าลงทุน 1 บาทจะได้ผลตอบแทนกลับไปมากสุดแค่ 100 บาทเท่านั้น
การระดมทุนรอบต่อๆไป capped return สำหรับนักลงทุนก็จะเริ่มลดลง กำไรส่วนเกินจะเข้าไปที่ non-profit ทั้งหมด Microsoft เลยบอกว่า “พี่ขอเข้าลงทุนก่อนเลย” 555+
Microsoft Partnership
ChatGPT ถูกเทรนบน Microsoft Supercomputer ที่มี CPU 285,000 cores และ GPU มากกว่า 10,000 ตัว เปิดตัวให้โลกได้เห็นครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2022
และกลายเป็น consumer product/ software ที่เติบโตได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ มี users แตะ 1 ล้านคนภายในห้าวัน และทะยานสู่ 100 ล้านคนภายในสองเดือน
เดือน ม.ค. 2023 Microsoft ประกาศว่าพร้อมใช้เงินอีก 1 หมื่นล้าน USD เข้าไปลงทุนใน OpenAI เพื่อเร่งพัฒนาโมเดล AI ต่างๆ เช่น GPT, Codex, Whisper และ DALL-E ให้เก่งยิ่งขึ้น

Microsoft เคยลงทุนใน OpenAI ไปแล้ว $1B USD ตอนบริษัทเปลี่ยนเป็น LP ในปี 2019 เพื่อให้ได้ exclusive license ของ GPT ที่นำมาใช้ใน Microsoft Bing ตอนนี้

แอดคิดว่านี่คือการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆสำหรับฝั่ง Microsoft คือสร้าง brand equity ได้เต็มๆ ใน Microsoft Thailand ตอนนี้บอกว่าเดินสายพูดเรื่อง AI กันทุกวัน 555+
How to use OpenAI?
วิธีการใช้งาน OpenAI สามารถทำสองวิธี
- สำหรับบุคคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา สมัครใช้งานบนเว็บไซต์ OpenAI
- สำหรับบริษัท SME ไปจนถึงระดับ Enterprise สมัครใช้งานบนเว็บไซต์ Azure OpenAI Service
ค่าใช้จ่ายในการใช้ GPT4 ของทั้งสองที่ไม่ต่างกันเลย ตามตารางด้านล่าง

หรือถ้าอยากจะ generate images ด้วย DALL-E บน Azure OpenAI เค้าคิดเงินประมาณ $2 USD ต่อ 100 รูป เฉลี่ยแค่รูปละ 1.42 บาท (คำนวณจากค่าเงิน 35 บาทต่อ USD)
จุดแข็งของ Azure OpenAI คือการทำ software integration บน Microsoft Azure ได้อย่างราบรื่น ได้เรื่องความปลอดภัยสูงขึ้นสำหรับ enterprise-grade applications
ติดปัญหาตรงไหน ก็มีทีม support คอยช่วยดูแล
สรุปง่ายๆก็คือการใช้ OpenAI บน Azure infrastructure นั่นเอง 🤣
ถ้าใครอยากลองใช้งาน Azure OpenAI ต้องสมัครใช้บริการ (request access) กรอกใบสมัครและตอบคำถามเกี่ยวกับ use cases ที่จะนำไปใช้ และรอทีม Microsoft approve ก่อนนะครับ
Azure OpenAI Service
ฟีเจอร์หลักๆของ Azure OpenAI แบ่งเป็น 4 ด้านคือ
- Pre-trained generative AI models
- ความสามารถในการปรับแต่ง customization และ fine-tune โมเดล
- มีตัวช่วยตรวจสอบการทำงานของโมเดล built-in tools
- ความปลอดภัยขั้นสูงระดับ enterprise-grade และ private networks
Microsoft รับประกันว่าบริการ Azure OpenAI จะพร้อมใช้งานมี SLA อย่างน้อย 99.9%

AI workloads ที่สามารถใช้ได้แล้วตอนนี้ (อัพเดท มิ.ย. 2023)
GPT
– Generating natural languageCodex
– Generating codeDALL-E
– Generating images
เบื้องหลังของ GitHub Copilot ตัวช่วยเขียนโค้ดที่กำลังพลิกโฉมวงการอยู่ตอนนี้ก็คือ Codex ของ OpenAI นี่เอง Microsoft เอามา fine-tune ต่อแล้วใส่ใน VS Code (แต่ไม่ฟรีนะ 😭 55+)
GitHub Copilot เปิดให้นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ และ Open-Source Contributors ที่ยืนยันตัวตนแล้วใช้งานได้ฟรี อ่านรายละเอียดได้ที่ Getting Started with GitHub Copilot
ส่วนตัวแอดคิดว่า use cases ด้าน natural language จะมีความสำคัญที่สุดเลย ความสามารถของ GPT ตอนนี้ทำได้หลายอย่างมากๆ generate, summarise, classify, translate เป็นต้น
รวมถึง use cases ใหม่ๆอย่างเช่นการ answer questions และ suggest contents หลายๆคนมองว่า ChatGPT สามารถใช้แทน Search Engine ได้เลยในอนาคต
📝 จุดเด่นของ OpenAI models คือการ generate output ใหม่จาก input หรือ prompt ที่เราเขียน โดยรวมเราเรียกโมเดลตระกูลนี้ว่า Generative AI หรือ Gen AI สั้นๆ
Azure OpenAI Studio
นักพัฒนาสามารถเรียกใช้งาน Azure OpenAI ได้ผ่านสามวิธีหลักๆคือ REST APIs, Python SDK และ Azure OpenAI Studio
Studio ออกแบบมาสำหรับคนที่เขียนโค้ดไม่เป็นเลยหรือยังเขียนได้ไม่เก่งมาก ไว้ design และทดลองสร้าง AI applications ใหม่ๆผ่าน web-based interface มี UI ให้กดคลิกง่ายๆ

ยุคนี้ software ต้องแข่งกันแบบ low-to-no code กันหมดแล้ว ยิ่งมีบริการแบบ no-code เข้าสู่ตลาดมากขึ้นเท่าไหร่ AI ยิ่งเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้มากขึ้นเท่านั้น
อย่างฝั่ง Google ก็เพิ่งเปิดตัว Gen AI Studio เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา AWS ก็มี Amazon Bedrock สำหรับพัฒนา Gen AI applications ด้วย foundation models
📝 วันก่อนแอดลองเล่น Zapier Interface สร้าง GPT chatbot ได้ใน 5 นาที เดี๋ยวนี้อะไรๆมันก็ง่ายไปหมดเลย แต่ต้องเสียเงินรายเดือนถ้าจะใช้ chatbot ต่อยาวๆ 555+
Responsible AI

Microsoft พัฒนา AI บนหลักการที่เรียกว่า Responsible AI แบ่งเป็น 6 หัวข้อหลักๆ คือ
- Fairness
- Reliability and Safety
- Privacy and Security
- Inclusiveness
- Accountability
- Transparency
ข้อมูลเกี่ยวกับ OpenAI ที่รันบน Azure สามารถหาอ่านได้ใน Transparency Notes ทั้งหมดเลยตั้งแต่การนำข้อมูลไปใช้งาน use cases ต่างๆ และข้อจำกัดของโมเดลและ Azure AI services
Free OpenAI Education
AI มาแล้ว และจะอยู่กับเราไปอีกนานแน่นอน ถ้าใครยังไม่เริ่ม upskill เลย เริ่มวันนี้ยังไม่สาย เอาจริงแอดก็เพิ่งใช้ Bard AI เป็นตอนทำคอร์สฟรีเดือนที่แล้ว 555+
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเรียนเรื่อง Azure OpenAI เข้าเรียนฟรีบน Microsoft Learn ได้เลยนะครับ มี learning path เนื้อหาจัดเต็ม ได้ความรู้เยอะมาก เรียนกันจุกๆ

แนะนำเริ่มเรียนจาก Introduction to Azure OpenAI Service ใช้เวลาเรียนแค่ 38 นาทีสั้นๆ เรียนจบได้ digital certificate แบบนี้ด้วย เย้ 555+

Return to Sam Altman
Sam Altman ไปให้สัมภาษณ์ในงาน Bloomberg Live (มิ.ย. 2023) โดยมี Emily Chang เป็น host ของรายการ แอดนั่งฟังจบเลยเป็น 22 นาทีที่คุ้มค่ามาก เผื่อใครอยากฟังตามนะครับ

👩🏻 Emily ถาม Sam ว่ามีโอกาสไหมที่เทคโนโลยี AI จะเป็นจุดจบของมนุษยชาติ i.e. the end of humanity?
I think we will be able to mitigate some of the worst scenarios you can imagine.
โลกเรากำลังอยู่ในจุดที่เทคโนโลยีเติบโตแบบก้าวกระโดด exponential และมันชันมากๆด้วยรอบนี้ steep curve มนุษย์เรากลัวกับสิ่งที่ไม่แน่นอน
ในอดีต มนุษย์เคยสร้างเทคโนโลยีหลายอย่างที่น่ากลัวแบบนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น atomic bomb หรือนิวเคลียร์ แต่พวกเราก็สร้าง safety practice ใช้ชีวิตอยู่กับมันได้อย่างปลอดภัย
Sam บอกว่า GPT4 ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จะสร้าง threat ให้กับโลกเราเท่าไหร่ แต่กับ GPT9 ก็ไม่แน่ ถึงแม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงน้อยนิดก็ตาม
👩🏻 Emily ถามต่อว่า ถ้ามีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดที่ AI จะ end humanity ทำไม OpenAI ถึงยังจะพัฒนามันต่อ?
I think the upsides here are tremendous, that opportunity for everyone on earth to have a better quality education.
เพราะสิ่งดีๆที่โลกเราจะได้จาก AI นั้นมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน ทั้งเรื่องการศึกษาที่มีคุณภาพที่มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ การรักษาพยาบาล และการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่
และเมื่อพิจารณาจาก economic impacts ต่างๆ ผมคิดว่าไม่มีบริษัทไหน (Google/ Microsoft/ Facebook/ Amazon) จะชะลอการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เลย

ส่วนตัวแอดก็เชื่อแบบ Sam เช่นกัน AI มาแล้ว มาอยู่ และจะมาต่อแน่นอน เราในฐานะมนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ เริ่มจากฝึกเขียน prompt ก่อนเลยตอนนี้
แล้วพบกันใหม่กับบทความ AI ตอนหน้า ช่วงนี้แอดอ่านเกี่ยวกับ prompt ทุกวันเลย กลัวตกงาน เย้ย 555+
💛 สมัครเรียนฟรีคอร์ส Prompt Design with Bard AI สอนโดยแอดทอย เย้ ตอนนี้นักเรียน 1,500 คนแล้ว 15 วีดีโอ เรียนจบในหนึ่งชั่วโมง สั้น กระชับ ใช้งานได้จริง
Leave a Reply