The Law of Growth ชีวิตไม่หยุดเรียนรู้สไตล์ Bruce Lee

ปลายปีที่แล้วแอดย้ายมาเริ่มงานใหม่ที่ adapter digital agency บริษัทพวกเราเป็นแนว creative & digital media ส่วนตัวแอดไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนเลย มาเริ่มงานแบบโล่งๆ 555+

ไหนๆก็เข้ามาทำงานด้าน creative เลยนั่งหาหนังสือด้านนี้มาอ่าน ไปเจอเล่มหนึ่งน่าสนใจมาก The Laws of Creativity (2022) ของ Joey Cofone แค่หน้าปกสวย เราก็เสียเงินทันที 🤣

หนังสือ The Laws of Creativity บทที่ 33 Law of Growth
สรุปกฎ The Law of Growth จากหนังสือ The Laws of Creativity

ไอเดียของหนังสือคือ creativity คือพลังงานบางอย่างไม่ต่างกับ gravity มีกฏที่เราสามารถเรียนรู้ ทำตามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เชิงสร้างสรรค์ได้ทุกสถานการณ์ Cofone แบ่ง Laws ออกเป็นสามส่วน

Foundation, Process and Excellence

บทความนี้แอดเขียนสรุปกฎที่ 33 The Law of Growth – Never Stop Learning หน้า 321 เป็นกฎแรกที่แอดอ่านจบ ได้รับพลังเยอะมาก วันนี้มาส่งต่อพลังให้ทุกคนแล้ว

The law of growth

นิยามของ The Law of Growth ในหนังสือเขียนไว้แบบนี้

Learning has no limits. Don’t be content to master one skill and neglect others. Without diversification, your strengths can turn into weaknesses. Commit to being a student for life.

การเรียนรู้ไม่มีข้อจำกัด อย่าพอใจกับการเก่งแค่เรื่องเดียวและละเลยทักษะอื่นๆ ปราศจากความหลากหลาย จุดแข็งของเราจะกลายเป็นจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน จงเป็นนักเรียนตลอดชีวิต

นี่มัน Generalist ชัดๆ มาถูกทางแล้วแอด 555+

The story of Bruce Lee

Bruce Lee สมัยเล่นภาพยนตร์ Hollywood
Bruce Lee สมัยเล่นภาพยนตร์ Hollywood (ที่มา scmp)

Bruce Lee ผู้เป็นตำนานการต่อสู้สาย mixed martial arts สมัยเด็กๆถูกแกล้งบ่อยมาก จนที่บ้านต้องส่งไปเรียน martial arts ให้ Bruce มีทักษะป้องกันตัวเองได้บ้าง

Bruce เป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียน ฝึกหนักกว่าทุกคน ใช้เวลาไม่นานก็ต่อยตีเก่งขึ้นมาก เวลามีเรื่องกันบนถนน เด็กคนอื่นสู้ Bruce ไม่ได้เลย โดน Bruce อัดจนน่วมไปหลายคน

ตำรวจเตือนว่าถ้า Bruce ไปมีเรื่องอีกจะจับเข้าคุกแล้ว พ่อแม่ได้ยินแบบนั้นเลยส่ง Bruce ไปที่อเมริกาเลย ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ Bruce เดินทางไปที่ปักหลักที่ Seattle และเข้าเรียนคณะปรัชญาที่มหาวิทยาลัย Washington ในปี 1961 ช่วงนั้น Bruce ก็เริ่มสอน martial arts ให้กับเพื่อนที่สนใจ

โรงเรียนของ Bruce ชื่อว่า Jun Fan Gung Fu Institute สอนทักษะการต่อสู้มวยกังฟูสไตล์ Wing Chun เหมือนในหนังเรื่อง Ip Man (Bruce เคยเป็นลูกศิษย์ของ Ip Man อยู่พักหนึ่ง)

Be like water

ปี 1964 Wong Jack Man มาสเตอร์การต่อสู้ด้าน Tai Ji Quan, Xing Yi Quan และหมัดเส้าหลิน ส่งคำท้าดวลตัวต่อตัวกับ Bruce Lee การต่อสู้จบภายในสามนาทีด้วยชัยชนะของ Bruce

หลังจากนั้น ไม่มีใครขอท้าสู้กับ Bruce อีกเลย ยั๊ง 555+

Bruce ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานมาก ถ้า Wong Jack Man คือที่สุดของมวย Tai Chi ทำไมเค้าถึงถูกเอาชนะได้อย่างง่ายดายในเวลาสามนาที (ขยี้อีกแล้ว 555+)

และ Bruce ก็ค้นพบคำตอบว่า “Wong’s greatest strength, his mastery, was also his greatest weakness.” จุดแข็งที่สุดของเราก็กลายเป็นจุดอ่อนได้ในเวลาเดียวกัน

ถ้ามวยแพ้ทาง จะเก่งแค่ไหนยังไงก็สู้อีกฝั่งไม่ได้ Tai Chi แพ้ทาง Wing Chun ไม่ต่างจากค้อนที่แพ้กระดาษเสมอ การที่เราเก่งแค่เรื่องเดียวกลายเป็นช่องโหว่ที่เปราะบางได้เหมือนกัน

Bruce จึงเปลี่ยนทิศทางการฝึกฝนของตัวเอง เรียนทุกศาสตร์ martial arts ที่ขวางหน้า และเป็นบิดาของ Jeet Kune Do แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “The way of the intercepting fist” หรือ the style of no style จุดเริ่มต้นของ mixed martial arts ปรัชญาที่ส่งต่อมาถึงยุคนี้

จงทำตัวให้เหมือนน้ำ ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ในทุกสถานการณ์ และการจะทำตัวเองเป็นน้ำได้ จำเป็นต้องมีมากกว่าหนึ่งทักษะ “Be formless. Shapless. Like water. [Never Stop Learning]”

ถึงแม้ Bruce จะเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ด้าน Wing Chun แต่เค้าไม่ชอบให้ลูกศิษย์เรียกเค้าแบบนั้นเลย และมองตัวเองเป็น perpetual student ขอเป็นนักเรียนตลอดไป

Find a balance

Life lessons from Bruce Lee
Life lessons from Bruce Lee ที่มา Seattle Times

สิ่งที่ Bruce Lee สอนไม่ได้แปลว่า เราต้องหลีกเลี่ยงการเป็น master ในวิชานั้นๆ แต่เหมือนทุกเรื่องในชีวิต เราต้องหา balance ให้เจอ ความสมดุลอยู่ตรงไหน ตัวเราเท่านั้นที่ตอบคำถามนี้ได้

  • Work and Life balance
  • R and Python development
  • Business and Data Science knowledge

เค้าว่ากันว่าห้องหนังสือของ Bruce Lee มีหนังสือหลายพันเล่ม นอกจากจะเป็นนักต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เค้ายังเป็นนักคิดในเวลาว่างอีกด้วย ทั้งการฝึกภาษาอังกฤษ เรียนปรัชญาและศาสตร์ต่างๆ

Absorb what is useful, discard what is useless, and add what is specifically your own.

ซึมซับสิ่งที่มีประโยชน์ ละทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญกับชีวิต เลือกเรียนสิ่งที่ทำให้หัวใจเราพองโต

แล้วนิยามความเก่งของเพื่อนๆเป็นแบบไหน? ระหว่าง Specialist vs. Generalist ลองแชร์ไอเดีย comment กันได้นะครับ

ส่วนตัวแอดเห็นด้วย 100% กับการเป็น generalist ไม่มีช่องว่างใดเหลือให้ specialist เลย 😊


Free Newsletter ใหม่ของเพจเรา subscribe ฟรีที่ ❤️ Humble Guide 💛 Duck Philosophy

6 responses to “The Law of Growth ชีวิตไม่หยุดเรียนรู้สไตล์ Bruce Lee”

  1. คุณทอยอยู่ Adapter ฝั่งไหนหรอคะ เห็นมีทีม Analytica อะไรซักอย่าง บริษัทดูน่าสนใจขึ้นหลังจาก ได้ คุณที่รู้ศาสตร์ของคณิต รีเสิช มาร์เก็ตติ้งแบบคุณทอยมากๆค้า ก่อนหน้าเข้าใจว่า adapter แค่อยากให้มีทีม data ดูยังไม่มี Core ทีมชัดๆ

    1. อยู่ทีม Analytica เลยครับ มาช่วยดู data projects ที่นี่ครับผม : )

  2. ชื่นชมผลงานคุณทอยมากๆค้า Adapter มีทีม Analytica เข้าใจว่าน่าจะช่วยให้ทีมเก่งขึ้น ก่อนหน้ายังดูไม่ชัด

    1. ขอบคุณครับคุณ IIEE มีอะไรเรียกใช้งานทีมทอยได้นะครับ : )

  3. เห็นด้วยกับการเป็น Generalist แบบแอดค่ะ🤣 จริงมากๆ เลย ถ้าเรารู้กว้างจะมีแต้มต่อ แต่ละเรื่องก็ต้องศึกษาประมาณหนึ่ง

    1. ต้องมาเป็น generalist ด้วยกันแล้วค้าบ เย้

Leave a Reply