เรียนเขียนโค้ดแบบไหน work ที่สุด? บทความนี้มาดูตัวอย่าง Project-Based Learning ของ JetBrains Academy ด้วยกันครับ 😊
JetBrains คือบริษัทพัฒนา software ระดับโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศ Czech ก่อตั้งโดย Maxim Shafirov ในปี 2000 กับสโลแกนสุดคูล The Drive to Develop
โดย software ที่ทีมพัฒนาขึ้นมา เช่น PyCharm, IntelliJ IDEA, WebStorm เป็น IDE ตัวช่วยเขียนโค้ดภาษาต่างๆ ที่ทำให้ developers ทำงานได้ง่ายขึ้น เขียนโค้ดเสร็จไว ไร้บั๊ก สุดยอด!
ผลงานของ JetBrains เรียกว่าเป็นระดับ World Class มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 12.8 ล้านคน ล่าสุด JetBrains เปิดตัว Academy อย่างเป็นทางการในปี 2022 เพื่อช่วยอัพสกิล dev ทั่วโลก
ตัวแอดสมัครเรียน JetBrains Academy มาแล้วประมาณหนึ่งปี วันนี้เพิ่งครบรอบต่อ subscription รายปีพอดี 555+ เลยมาเขียนรีวิวให้ทุกคนอ่านกัน

📝 ถ้าใครกำลังมองหาที่เรียน coding/ programming อัพสกิลในปีนี้ ลองพิจารณา JetBrains Academy ไว้อีกทีหนึ่งได้นะครับ อันนี้แอดเขียนรีวิวจริง ไม่ได้ค่า commission ใดๆนะ 555+
Table of Contents
JetBrains Academy
ทีมงานของ JetBrains Academy ออกแบบหลักสูตรที่เน้นการทำโปรเจ็คจริงเรียกว่า project-based learning เขียนโค้ดบน web browser รูปแบบการเรียนแบ่งเป็นสอง steps คือ
- เรียน theory + concepts (เนื้อหาเป็นแบบ text-based)
- ลงมือทำจริง เขียนโค้ดสร้างโปรเจ็ค

จุดเด่นของ JetBrains Academy
- แผนการเรียนปรับเปลี่ยนได้ ตามสไตล์ของเรา
- เรียนรู้จากการทำโปรเจ็คจริง
- นำโปรเจ็คขึ้น GitHub สมัครงานต่อได้
- ได้รับ feedback ทันทีจากการทำ quiz
- ได้รับ certificate of completion หลังจากเรียนจบ track นั้นๆ
เลือก track ภาษาที่เราสนใจเรียน และเลือก project ตามระดับความยาก ถ้าใครเพิ่งเริ่มเรียนเขียนโปรแกรม แอดแนะนำค่อยๆเรียนจาก easy ➝ medium ➝ hard ➝ challenging

📝 บางโปรเจ็คจะต้องดาวน์โหลด Desktop IDE ของ JetBrains ลงในเครื่องเราด้วยนะครับ ใช้งานฟรีสำหรับการเรียน ถ้าขยันเรียน JetBrains จะปลดล็อคให้เราใช้ IDE ของเค้าฟรี 30 วันเลย
Tracks
JetBrains Academy ตอนนี้มีทั้งหมด 29 tracks ให้เราเลือกเรียน (อัพเดท 12 ม.ค. 2566) มากกว่า 100 โปรเจ็ค เนื้อหามากกว่า 500+ ชั่วโมง ตัวอย่าง tracks ที่เราเข้าเรียนได้ตอนนี้ เช่น
- Python Core
- Java | Kotlin
- HTML | CSS | JavaScript
- SQL | SQL with Python
- Front End | Back End | First Glance at Data Science
- Intro to Computer Algorithms and Data Structures
- Maths for Programmers
ถ้าใครเรียนจบ ครบทุก tracks คือทำได้เกือบทุกอย่างแล้วในงาน software 🤩 สร้าง basic web apps เข้าใจทั้ง front end + back end การสร้าง database และพื้นฐาน data science

✅ Track ที่เค้าเปิดให้เรียนฟรีคือ Kotline Basics เพื่อนๆที่สนใจ ลองเข้าเรียนได้เลย 24 projects 110 ชั่วโมง เรียนกันแบบจุกๆ ใครเรียนจบแล้วสอนแอดด้วย 555+

เนื้อหา Kotlin Basics เพิ่งอัพเดทเมื่อ 16 วันที่แล้ว อัพเดทรัวๆ เนื้อหาใหม่ตลอด (ม.ค. 2566)
บาง tracks จะขึ้นเป็น Beta อยู่ หลักสูตรยังไม่สมบูรณ์ 100% เข้าเรียนได้แต่จะยังไม่ได้ใบ certificate จนกว่าเค้าจะเปิดแบบ public นะครับ
Knowledge Map
อีกฟีเจอร์ที่แอดชอบมากของ JetBrains Academy คือ Knowledge Map
เป็นเหมือนแผนที่การทำ quest ของเรา ว่าต้องเรียนอะไรต่อบ้างถึงจะทำโปรเจ็คจบได้ จะแบ่งเป็น required กับ dependent topics (เหมือน dependencies ตอนเราทำ software)

หลายคนที่เรียน coding ด้วยตัวเอง จะมีบางช่วงที่หลงทาง ไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรต่อดี knowledge map ถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหานี้ เพราะมันบอก topics ที่เราต้องเรียนต่อไปเรื่อยๆ
Study Plan
แต่ละโปรเจ็คจะมี study plan ให้เราเรียนตามได้ง่ายๆ บาง topics ถ้าเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว สามารถกด skip ได้ด้วยการสอบ verify ความรู้ จะเป็น quiz สั้นๆ 5-10 ข้อ
อันนี้เป็นตัวอย่าง study plan ของ JavaScript for Beginners โปรเจ็ค Coffee Machine

เรียนจบ track นี้ เราจะสามารถสร้าง coffee machine (code-based) ไว้รับ user inputs ซื้อ เติม supply และ serve กาแฟได้ด้วยภาษา JavaScript
📝 JavaScript ถึงชื่อจะคล้ายกันแต่ไม่ใช่ภาษาเดียวกันกับ Java นะครับ 555+

หน้า UI ของโรงเรียนจะมี Progress Bar ไว้ดูสถานะการเรียนของเรา ว่าใกล้จบโปรเจ็คหรือยัง และเรียนจบไปแล้วกี่ topics แอดว่า user experience ของระบบเค้าทำได้ดีมาก เย้
Gems
การเรียนบน Academy จะมีระบบสะสม XP (Experience Points) เรียกว่า Gems
การเก็บ gems เป็นหนึ่งในเทคนิค Gamification เพื่อกระตุ้นนักเรียนให้ตั้งใจ และเรียนได้สนุกขึ้น ไม่รู้ว่า work กับทุกคนไหม แต่แอดชอบมาก ไปเรียนต่อแป๊ป 555+

เราสามารถใช้ gems ไปแลก benefits บางอย่างได้ เช่น การเปลี่ยนรูป cover ของ profile page และการซื้อ 1-day streak freeze (วันไหนขี้เกียจ ก็ใช้ gems แลก streak ได้)
ตัวอย่าง profile page ของแอดเอง แลก gems มาแล้ว เท่ไม่หยอก ยั๊ง! 555+

ยิ่งเรียนมาก ยิ่งได้ gems มาก ต้องลุยแล้ว!
📝 ถ้าใครเคยเรียนบน DataCamp ก็จะมีระบบ XP เหมือนกัน เก็บ points ไว้แสดงประสบการณ์ของเรา จริงๆแอดว่าน่าจะเอา XP ไปแลกคอร์สเรียนได้เพิ่ม คนน่าจะตั้งใจเรียนขึ้นอีกเยอะ
Community
บน Academy มี discussion feed ให้เราคุย ปรึกษากับเพื่อนทั่วโลกเลย ถึงจะเรียนออนไลน์ก็ไม่เหงา ตั้งกระทู้ชวนคุยกับคนอื่นได้ 555+

Quiz บางข้อที่มันยากมากๆ หรือเราคิดไม่ออก ก็มาหาคำตอบหรือ hint ได้ในกระทู้ จะขาย gems แลกคำตอบก็ได้ (ตั้ง bounties) ล่าสุดมีห้อง study groups ใน discord เปิดแล้วด้วย
Certificate of Completion
เรียนจบ track เราก็จะได้ใบ certificate เท่ๆนำไปใช้สมัครงานได้
เดี๋ยวนี้เรียนจบต้องแจกเซอร์หมดทุก platforms แล้ว ใช้เทคนิคแบบ gamification 555+

พี่รูฟ Agile Coach จาก ODD-E เคยสอนแอดว่า ใบเซอร์บอกว่าเรารู้อะไร แต่ไม่ได้แปลว่าเราทำเป็น 555+ ฉะนั้นเวลาสมัครงานต้องมีทั้ง project portfolio และ certificate คู่กันนะครับ
Worth Your Money?
ค่าใช้จ่ายสมัครเรียนบน Jetbrains Academy อยู่ที่ $49 ต่อเดือนหรือ $249 ต่อปี ถ้ารวม vat จะอยู่ที่ $260 นิดๆ คุ้มแน่นอน ถ้าสมัครแล้วเข้าเรียน 555+ เนื้อหาระดับโลกในราคาที่เราเข้าถึงได้
Great contents, high-quality, affordable price
JetBrains Academy
คู่แข่งของ JetBrains Academy คือ Codecademy กับ Educative เลย ชนกันตรงๆ
แต่ความพรีเมียมของ JetBrains คือถ้าเราเรียนติดกัน streak เราจะปลดล็อค license IDE ทั้งหมดได้ 30 วัน ใช้ฟรีไม่ต้องจ่ายเงินเดือนละ $30

Final Thought – แอดคิดว่า JetBrains จะเหมาะกับคนที่ชอบเรียนแบบ text-based อ่านและศึกษา code ด้วยตัวเองเป็นหลัก ถ้าใครชอบเรียนวีดีโอ platform นี้อาจจะไม่ตอบโจทย์นะครับ
ส่วนตัวแอดตอนนี้มี active subscriptions หลักๆ 4 ที่คือ
- Coursera Plus
- DataCamp
- JetBrains Academy
- Codecademy
กำลังคิดว่าจะลดเหลือ 3 ที่แล้ว เพราะไม่มีเวลาเรียน มุแง้ 555+ 😭
ถ้าใครอยากเน้นวีดีโอสอน theory + concept ลองดูบน Cousrera, edX และ Udacity อ่านบทความแนะนำ 16 คอร์สเรียนฟรี Data Science (2023) ที่แอดเขียนไว้ตอนต้นปีได้เลย
Leave a Reply